คุณหมอคุยกับหมา

หน้าแรก 9 บทความทั่วไป 9 คุณหมอคุยกับหมา

ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง

ในเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยเรื่องวุ่น ๆ ซึ่งผู้คนต้องการหางานอดิเรกทำเพื่อแก้เหงา และคลายเครียด บางคนก็ปลูกต้นไม้ บางคนก็ออกกำลังกายหรือเต้นแอโรบิก บางคนก็เลี้ยงสัตว์เลี้ยง เช่น เจ้าตูบตัวยุ่ง เจ้าแมวแสนซน หรือบางคนชอบเสียงอันไพเราะจากการส่งเสียงเจื้อยแจ้วของเจ้าสัตว์ปีกตัวน้อย โดยปกติแล้วช่วงเย็น ๆ หลังจากเลิอกงานหรือเลิกจากเรียนแล้วชาวหมู่บ้านภาษาสวรรค์นี้ก็จะพากันมาออกกำลังกายที่รอบๆ ทะเลสาบของหมู่บ้าน บางคนก็จะเอาเจ้าตัวแสบของตนออกมาอวดโฉมกันด้วย พอเหนื่อยก็จะมานั่งพักคุยกันตามประสาคนรักสัตว์ด้วยกัน ซึ่งมักจะมีเรื่องถกเถียงกันประจำเพราะแต่ละคนก็จะมีสูตรสำเร็จการเลี้ยงกันคนละสำนัก ว่ากันว่ามาคนละตำรากันว่าอย่างงั้นเถอะ จนวันหนึ่งถือเป็นความโชคดีของชาวหมู่บ้านภาษาสวรรค์นี้เพราะมีสมาชิกของหมู่บ้านใหม่เป็นคุณหมอสัตวแพทย์ซึ่งมีความสามารถพิเศษพูดคุยกับสัตว์เลี้ยงรู้เรื่อง ลองมาติดตามดูเรื่องราวน่ารู้สนุก ๆ ที่คุณหมอคนใหม่คุยกับเจ้าตูบทั้งหลายดูซิว่าจะมีเรื่องราวอะไรบ้างหนอ ?

ในเย็นวันศุกร์วันแห่งความสุขของครอบครัว วันนี้คุณหมอก็มาวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะของหมู่บ้านเช่นเคยส่วนเจ้าโคล่าโกลเด้นท์แสนซนก็กำลังเล่นคาบลูกเทนนิสกับน้องแมนเจ้านายตัวน้อยของมันอย่างสนุกสนาน ส่วนเจ้าถุงทองรอตไวเลอร์ตัวดำเมี่ยมก็กำลังวิ่งลิ้นห้อยออกกำลังกายกับพี่หนุ่มผู้คุมสายจูงของมันอยู่ ซึ่งใคร ๆ ก็สู้สาวน้อยแพทตี้ไม่ได้นั่งเชิดคอเป็นคุณนายบนอ้อมกอดของคุณพี่สมศรีที่เดินเล่นรอบๆสนาม พอออกกำลังกายได้เหงื่อสักพักคุณหมอก็มานั่งพักสักหน่อย(ไม่กล้าหักโหมเดี๋ยวหัวใจวายก่อน) ส่วนเจ้านายของเจ้าตัวยุ่งทั้งสามก็ไปเสวนาตามประสาคนรักหมา เจ้าตัวแสบทั้งสามจึงโดดมาคุยกับคุณหมอสุดหล่อ

คุณหมอ  : “เป็นยังไงกันบ้างเจ้าโกลเด้นท์ และสาวน้อยทั้งสอง”

โคล่า      : “ผมชื่อโคล่า ส่วนเจ้าพูดเดิ้ลตัวน้อยชื่อแพทตี้ และเจ้ารอตเขี้ยวยาวนั้นชื่อถุงเงินฮะ”

แพทตี้    : “คุณหมอขา…แพทตี้มีเรื่องอยากรู้คุณหมอคงช่วยแพทตี้ได้นะคะ”

คุณหมอ  : “อะไรกันเจอหน้าก็ซัดคำถามเลยหรอเอ้าว่ามาสิ ตอบได้ก็จะตอบให้”

แพทตี้     : “เผอิญแพทตี้เห็นสุนัขจรจัดเดินป้วนเปี้ยนอยู่แถวบ้านทำไมเขาไม่ค่อยมีขนมีแต่หนังละคะ เห็นเกาทั้งวันเลย น่าจะคัน แล้วจะติดกับแพทตี้ไหมคะ แพทตี้กลัวขนสวยๆของแพทตี้เหลือแต่หนังค่ะ”

คุณหมอ   : “เค้าเรียกว่าโรคขี้เรื้อนจ้ะ เกิดจากตัวไรเล็ก ๆ อาศัยอยู่บนผิวหนังกำพร้าซึ่งเจ้าไรที่ว่ามีขนาดเล็กมากและยังสามารถสืบพันธุ์ออกไข่ให้ลูกหลานได้มากมายเรียกได้ว่าอาศัยผิวหนังของเจ้าทั้งหลายเป็นบ้านหลังใหญ่เลยทีเดียว ซึ่งจะมีอาการคันที่ขอบหู ศอกด้านหลัง จากนั้นผิวหนังก็เริ่มเป็นสะเก็ดแผลที่หนาตัวขึ้น เมื่อแผลแตกมากขึ้นอาการขนร่วงก็จะค่อย ๆ แพร่ไปทั่วตัวจนกลายเป็นเจ้าสุนัขหนังกลับที่แพทตี้เห็นนั้นแหละจ้ะ ซึ่งแพทตี้ถามว่าจะติดหนูไหมนะเหรอ ก็สามารถติดได้นะเนื่องจากการเล่น สัมผัสกับเจ้าสุนัขที่เป็นและได้รับตัวไรนี้”

ถุงเงิน      : “น่ากลัวจังเนอะ แต่แพทตี้ก็ไม่ได้ไปคลุกคลีกับเจ้าตูบตัวนั้นไม่ใช่หรอคงไม่ติดหรอกมั้ง”

คุณหมอ   : “ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ไปคลุกคลีแต่สะเก็ดผิวหนังที่ร่วงลงมา แต่ถ้าแพทตี้ไปนอนทับหรือกลิ้งเกลือกโดนก็มีโอกาสติดเชื้อจนอาจป่วยเป็นขี้เรือนแห้งก็ได้นะ”

แพทตี้     : “โชคดีจังที่คุณนายสมศรีไม่ปล่อยแพทตี้ออกมา แพทตี้จึงมองออกมาจากในบ้านเลยคงไม่ติด เฮ้อโล่งอกนึกว่าจะเป็นพุดเดิ้ลพันธุ์หนังไปแล้ว”

โคล่า       : “โชคดีไปนะหนูแพทตี้ คุณหมอครับผมเห็นเจ้าเป๊บซี่โดเบอร์แมนตัวโตข้างบ้านถูกเจ้านายมันเอาอะไรไม่รู้มาครอบปากไว้ก็ไม่รู้”

คุณหมอ   : “ตะกร้อครอบปากละมั้ง สงสัยเจ้าของกลัวเจ้าเป๊บซี่ไปกัดคนอื่นละมั้ง”

ถุงเงิน      : “ไม่อึดอัดแย่หรอคะ”

คุณหมอ   : “แน่นอนละตะกร้อครอบปากจะทำให้เจ้าเป๊บซี่อึดอัด หมดอิสรภาพ กินน้ำและอาหารได้ลำบากยิ่งถ้าใส่ไว้ทั้งวันละก็จะทำให้เกิดอาการเครียด ที่สำคัญนะไอ้เจ้าตะกร้อเนี่ยหากทำจากวัสดุที่แข็งและสาก ก็จะไปเพิ่มการเสียดสีกับผิวหนังบริเวณปากและทำให้เป็นแผลได้”

โคล่า       : “สงสารเจ้าเป๊บซี่จัง”

แพทตี้     : “ไปสงสารทำไม เจ้าเป๊บซี่ชอบกัดใครต่อใครไม่เลือกไม่ใช่เหรอก็สมควรโดนแล้วนิ”

คุณหมอ   : “จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกนะแพทตี้ จริง ๆ แล้วเจ้าของน่าจะใช้วิธีล่ามให้อยู่ในบริเวณบ้านหรือหากรงมาให้เจ้าเป๊บซี่ไว้คงน่าจะดีมากกว่าการใส่ตะกร้อครอบปากนะ”

แพทตี้     : “ไงพี่ถุงเงินไม่มีอะไรถามคุณหมอสุดหล่อบ้างหรอ”

ถุงเงิน      : “แหมก็เห็นถามกันใหญ่เลยนั่งฟังจนเพลินนะ เอาสักหน่อยก็ได้เดี๋ยวจะน้อยหน้า คุณหมอคะ พี่หนุ่มเจ้านายของถุงเงินเขาซื้อยาป้องกันพยาธิหนอนหัวใจมา ไอ้เจ้าพยาธิหนอนหัวใจเนี่ยมันเป็นยังไงคะ”

คุณหมอ   : “เอาง่าย ๆ เลยนะ เจ้าพยาธิหนอนหัวใจนั้นมียุงเป็นพาหะนำโรค คือเมื่อยุงดูดเลือดจากเจ้าตูบที่ป่วยเป็นโรคนี้ ทำให้ยุงได้รับตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจเข้าไปด้วยสมมมติว่ายุงตัวนั้นไปดูดเลือดถุงเงินก็จะทำให้ถุงเงินได้รับตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจเข้าไปด้วย จากนั้นตัวอ่อนก็จะหากินในกระแสเลือดในตัวถุงเงินซึ่งใช้เวลาประมาณ 120 วัน และเดินทางต่อไปยังปอดและใช้เวลา 5-6 เดือนเพื่อเจริญเป็นตัวแก่”

แพทตี้     : “แล้วไงต่อคะคุณหมอ”

คุณหมอ   : “เจ้าพยาธิหนอนหัวใจเนี่ยมันยาวถึง 14 นิ้วเลยนะ ยาวกว่าไม้บรรทัดซะอีก มันจะไปมีผลต่ออวัยวะสำคัญของร่างกายโดยจะอุดตันเส้นเลือดจากหัวใจไปยังปอด และถ้ามีมากก็มาอุดตันที่หัวใจมีผลต่อความดันเลือดและหัวใจต้องทำงานมากขึ้นและขยายใหญ่และหนาตัวและทำให้หัวใจล้มเหลวได้และอาจถึงแก่ชีวิตได้”

แพทตี้     : “แล้วอาการเป็นยังไงคะ”

คุณหมอ   : “หายใจลำบาก ไอแห้ง ๆ หอบเหนื่อยง่าย ร่วมกับอาการซึม เบื่ออาหาร หากอ้วนและอายุมากก็จะทำให้ความรุนแรงมากขึ้นด้วยซึ่งอาจจะทำให้เสียชีวิตได้”

ถุงเงิน      : “แหมอาการอย่างนี้จะรู้ได้ยังไงละคะว่าเป็นโรคพยาธิหนอนหัวใจเนี่ย”

คุณหมอ   : “แต่ถ้าจะให้รู้แน่ต้องเจาะเลือดตรวจหาพยาธินะจ้ะ”

ถุงเงิน      : “แล้วมีวิธีรักษาไหมคะ”

คุณหมอ   : “มีซิจ้ะแต่คุณหมอต้องประเมินสภาพจากอายุ ความแข็งแรงของร่างกาย เอ็กซ์เรย์วัดขนาดของหัวใจถ้าพร้อมก็ให้ยาฆ่าพยาธิตัวแก่ และควรงดการออกกำลังกายด้วย”

ถุงเงิน      : “ทำไมต้องงดออกกำลังกายด้วยละคะ”

คุณหมอ   : “เพราะช่วง 3 เดือนแรกของการรักษา อาจเกิดเศษพยาธิที่ตายอยู่ในกระแสเลือดไปอุดตันตามอวัยวะสำคัญได้จ้ะ”

โคล่า       : “โอ้โห…น่ากลัวจังเลยครับ การรักษาก็ดูวุ่นวายนะครับ แล้วการป้องกันไอ้เจ้าพยาธิหนอนที่ยาวกว่าไม้บรรทัดนี้จะง่ายกว่าไหมครับ”

คุณหมอ : “ง่ายกว่าแน่นอน ก็อย่างที่เจ้านายของถุงเงินซื้อมานั้นแหละมีทั้งแบบกิน หรือแบบฉีด เลือกเอาตามใจชอบเลย ป้องกันไว้ก่อนนั้นแหละดีที่สุด”

แพทตี้     : “คุณหมอขา แพทตี้มีเรื่องข้องใจอีกอย่างคะ คือว่าคุณนายสมศรีเจ้านายของแพทตี้เป็นคนชอบกินปลามาก ๆเ ลย เพราะฉะนั้นแล้วก็จะมีสิ่งที่ตามมาถึงแพทตี้คะ

ถุงเงิน     : “ยังไงหนูแพท พี่ฟังแล้วงงจังเลยจ้า”

แพทตี้     : “ก็ก้างปลาทั้งหลายที่เหลือจากเจ้านายของแพทตี้ไงคะ ทั้งก้างปลาช่อนเผาเกลือ ก้างปลาช่อนลุยสวน ก้างปลาทับทิมนึ่งมะนาว ก้างปลาทูทอด ก้างปลานิลทอด”

โคล่า       : “พอ ๆ หนูแพทตี้ยิ่งพูดยิ่งน้ำยายไหย”

ถุงเงิน      : “อ๋อเข้าใจแล้ว แพทตี้จะถามคุณหมอว่าแพทตี้กินก้างปลาจะเป็นอะไรใช่ไหมจ๊ะ”

คุณหมอ   : “อืม…ก่อนอื่นเจ้านายของพวกเจ้าต้องคิดให้ดีก่อนว่าเลี้ยงสุนัขพันธุ์ใหญ่หรือพันธุ์เล็ก เพราะถึงแม้ว่าก้างปลานั้นจะมีประโยชน์คือทำให้ได้แร่ธาตุอย่างแคลเซียม แต่มันก็มีโทษถึงแก่ชีวิตได้เช่นกันนะก้างปลาใหญ่ ๆ คงไม่เหมาะกับหนูแพทตี้ละมั้ง หมอว่ามันจะทิ่มแทงคอหนูเอาอาจจะติดคอได้นะจ้ะ แต่ก้างปลาเล็ก ๆ อย่างก้างปลาทูก็พอไหวจ้ะ วันนี้เอาแค่นี้ก่อนแล้วกันนะ เจ้าสามตัวนี้ถามเก่งจริง ๆ ”

โคล่า       : “เราสามคนเอ๊ย สามตัวขอขอบคุณคุณหมอมากนะครับที่ให้ความรู้และคำแนะนำต่างๆมากมาย”

คุณหมอ   : “ถึงเวลากลับไปหาเจ้านายได้แล้ว”

สามตัวเจ้าปัญหาลาคุณหมอสุดหล่อพร้อมเสียงอำลา “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง”

 

โกลเด้น

“โคล่า”

หนุ่มหล่ออายุ 2 ปีพันธุ์โกลเด้นท์ รีทรีฟเวอร์ อุปนิสัยร่าเริง ใจดี ขี้เล่น กิจกรรมที่ชอบ คือ คาบลูกเทนนิส

 

รอตไวเลอร์

“ถุงเงิน”

สาวใหญ่ของบ้านพี่หนุ่ม อุปนิสัย รักสงบ น่าเกรงขาม มั่นใจตัวเองสูง เคยมีเจ้าตัวเล็กๆ 2 ครอกมาแล้ว

 

พูดเดิ้ล

สาวน้อย “แพทตี้”

สาวน้อยผู้น่ารักของคุณนายสมศรี ขี้ประจบ เอาใจเจ้านายเป็นที่หนึ่ง