วิธีการสังเกตสุนัขอ้วนผิดปกติหรือไม่ เพื่อประเมินร่างกายของน้องหมา มีวิธีดังนี้
- สังเกตพฤติกรรมสุนัข
เมื่อสุนัขมีน้ำหนักที่มากขึ้น น้อง ๆจะขี้เกียจ และใช้เวลาหาของกินเป็นส่วนใหญ่ หากสุนัขของคุณเริ่มนอนมากขึ้น มีปัญหาในการขยับตัว พวกเขาอาจเริ่มมีปัญหาเรื่องน้ำหนัก โดยเฉพาะเมื่อให้อาหารแบบบุฟเฟต์ อยากกินเมื่อไรก็กิน
2.สังเกตสุนัขจากด้านข้าง
หากสุนัขมีท้องป่อง ห้อยย้อย พุงกลม นั่นคืออีกสัญญาณหนึ่งของการเริ่มเป็นสุนัขอ้วน แต่หากสุนัขของคุณยังมีท้องที่ตึงแน่นโดยไม่มีพุงห้อยลงมา หมายถึงคุณยังสบายใจได้ น้อง ๆ ยังมีสุขภาพที่ปกติ
- ประเมินไขมันส่วนเกิน
หากสุนัขมีเหนียง ก้อนไขมันส่วนเกิน นั่นคือสัญญาณสำคัญของการอ้วน นอกจากนี้ในบางตัวยังมีก้อนไขมันส่วนเกินบริเวณขา ที่อาจจะสั่นเวลาพวกเขาเดิน และอย่าลืมมองหาที่บริเวณสะโพก หากมีก้อนไขมันเกินออกมา ให้ระวังน้ำหนักของพวกเขาได้แล้ว
- มีปัญหาในการหายใจ
ปอดของสุนัขอ้วนจะไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติเนื่องจากไขมันในช่วงอกจะไปกดการขยายของปอด และกดกะบังลม ในขณะเดียวกัน สุนัขที่อ้วนก็ต้องการออกซิเจนมากเพื่อไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย แต่ไม่สามารถหายใจได้อย่างเต็มอิ่ม
- ชั่งน้ำหนักเพื่อความแน่นอน
วิธีที่ง่ายที่สุดในการวินิจฉัยว่าสุนัขน้ำหนักเกินหรือไม่ คือการชั่งน้ำหนักที่คลินิกหรือโรงพยาบาล สัตวแพทย์จะบอกคุณได้ว่าน้องหมากำลังอยู่ในภาวะอ้วนหรือไม่ ด้วยขนาดของสุนัขและสายพันธุ์ ซึ่งสัตวแพทย์จะสามารถเปรียบเทียบกับ body condition score chart ซึ่งจัดอันดับสุนัขด้วยความอ้วนระดับ 1-9 โดยน้ำหนักสุนัขที่เหมาะสมคือระดับ 4-5
ภาพ จาก https://anexa.co.nz/body-condition-scoring-in-working-dogs/
นายสัตวแพทย์ รพีพัฒน์ โพบุคดี