เทคนิคการเลือกซื้ออาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับทาสแมวมือใหม่
แมวจัดเป็น สัตว์กินเนื้อที่แท้จริง (True carnivore) ร่างกายต้องการสารอาหารที่ได้จากเนื้อสัตว์ เช่น ทอรีน ซึ่งไม่สามารถสร้างเองได้ หากได้รับอาหารที่เน้นพืชหรือแป้ง อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ เช่น ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ปัญหาหัวใจ ตาบอด หรือสุขภาพขน ผิวหนังไม่แข็งแรง
ดังนั้น สำหรับทาสแมวมือใหม่ การเลือกอาหารเม็ดสำเร็จรูปควรให้ความสำคัญกับ ลำดับวัตถุดิบ บนฉลาก ควบคู่กับการพิจารณา ปริมาณโซเดียม และ โปรตีนที่เหมาะสม เพื่อปกป้องสุขภาพไตและหัวใจของแมวในระยะยาว

ทำไมลำดับวัตถุดิบจึงสำคัญ?
บนฉลากอาหารสำเร็จรูป วัตถุดิบจะถูกเรียงตาม “น้ำหนักจากมากไปน้อย” ซึ่งหมายความว่า วัตถุดิบอันดับต้น ๆ คือสิ่งที่มีปริมาณมากที่สุด ในสูตรนั้น
หากอันดับแรก ๆ เป็น โปรตีนจากสัตว์ (Chicken, Fish,Lamb,Turkey) แสดงว่าอาหารเน้นโปรตีนจากสัตว์ → เหมาะสมกับความเป็น True carnivore ของแมว
หากอันดับต้น ๆ เป็น ข้าวโพด ข้าวสาลี ถั่วเหลือง มันสำปะหลัง → โปรตีนอาจมาจากพืชมากเกินไป ไม่เหมาะกับแมวในระยะยาว
✦ ผลพลอยได้จากสัตว์ปีกป่น คืออะไร มีประโยชน์ ต่อแมว ไหม ?
หลายคนเข้าใจผิดว่า “ผลพลอยได้” คือของเหลือหรือของไม่มีคุณภาพ แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่สิ่งเลวร้ายเสมอไป
ผลพลอยได้จากสัตว์ปีกป่น (Poultry by-product meal) มักประกอบด้วยเครื่องใน คอ ปีก กระดูกอ่อน และหนัง ซึ่งอุดมด้วยโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ ซึ่งแมวในธรรมชาติเองก็มักกินชิ้นส่วนเหล่านี้ ไม่ได้กินเฉพาะเนื้อแดงเท่านั้น
ข้อสังเกต คือ หากใช้เป็นวัตถุดิบหลักอันดับ 1 และไม่ระบุชนิดสัตว์ชัดเจน แต่ถ้าใช้ร่วมกับโปรตีนคุณภาพสูง เช่น Chicken meal หรือ Fish meal ในอันดับรองลงไป ถือว่า สามารถเป็นแหล่งสารอาหารที่ดีสำหรับแมว
โปรตีนและสารอาหารสำคัญที่ควรมองหา
- โปรตีนจากสัตว์เป็นอันดับแรก
- ทอรีน (Taurine) จำเป็นต่อการทำงานของหัวใจและการมองเห็น
- กรดไขมันโอเมก้า 3–6 เพื่อสุขภาพผิวหนังและขน
หมายเหตุเรื่องโปรตีนสูง:
แม้แมวจะต้องการโปรตีนสูง แต่ ไม่ได้หมายความว่าอาหารที่มีโปรตีนสูงที่สุดจะดีเสมอไป โปรตีนเกินความต้องการ → เป็นภาระต่อไตโดยเฉพาะในแมวสูงอายุหรือแมวที่มีโรคไต สิ่งสำคัญคือ โปรตีนที่เหมาะสม เพียงพอต่อความต้องการ ไม่มากเกินไป ดังนั้น ควรเลือกอาหารที่ให้ โปรตีนเพียงพอเหมาะสม + คุณภาพสูง (โปรตีนจากสัตว์มากกว่า โปรตีนจากพืช) จะช่วยให้แมวแข็งแรงโดยไม่เสี่ยงต่อไต
ตามมาตรฐาน AAFCO ประเทศสหรัฐอเมริกา
- แมวโต (อายุ 1 ปี ขึ้นไป ) ต้องการโปรตีน ไม่น้อยกว่า 26 %
- ลูกแมวโต (หย่านม -อายุ 1 ปี ) ต้องการโปรตีน ไม่น้อยกว่า 30 %
ความสำคัญของการควบคุมโซเดียม
ตามมาตรฐาน AAFCO ประเทศสหรัฐอเมริกา
- ค่าโซเดียมขั้นต่ำ (ไม่น้อยกว่า) สำหรับแมวโต = 0.2 % (Dry Matter Basis)แมวต้องการโซเดียมเพื่อสมดุลน้ำและเกลือแร่ แต่หากมากเกินไป → เป็นภาระต่อไตและหัวใจ
วิธีเลือกอาหารเม็ดจากฉลาก
- ดูวัตถุดิบอันดับ 1–5 ควร มีโปรตีนจากสัตว์
- พิจารณาวัตถุดิบเสริม เช่น ผลพลอยได้ → ไม่ได้เลวร้าย แต่ควรใช้ร่วมกับเนื้อสัตว์คุณภาพ
- ตรวจสอบว่าใส่สารอาหารจำเป็นของแมว เช่น Taurine, Omega-3,6
- มองหาการควบคุมค่าโซเดียม ถ้ามีระบุ → เลือกที่อยู่ในเกณฑ์ ไม่น้อยกว่า 0.2 %
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสี กลิ่น หรือสารแต่งรสที่ไม่จำเป็น
- เลือก ปริมาณโปรตีนที่เหมาะสม ไม่ใช่สูงสุดเสมอไป
คำแนะนำจากสัตวแพทย์
ไม่ควรเลือกอาหารจาก “ยี่ห้อดังหรือราคาถูก” เพียงอย่างเดียว แต่ให้ดูที่ ลำดับวัตถุดิบและคุณค่าทางโภชนาการ และค่อย ๆ ปรับอาหารใหม่ภายใน 14-30 วัน เพื่อลดปัญหาท้องเสีย หลีกเลี่ยงขนมที่โซเดียมสูง เช่น ปลาแห้ง ปลาหมึก หรือแฮม หากแมวมีโรคประจำตัว เช่น ไตหรือหัวใจ ควรเลือกสูตรเฉพาะตามสัตวแพทย์แนะนำ
สรุป
แมวเป็น True carnivore ที่ต้องการโปรตีนจากสัตว์เป็นหลัก การเลือกอาหารเม็ดสำเร็จรูปสำหรับมือใหม่จึงควรเน้น ลำดับวัตถุดิบ และ โปรตีนที่เหมาะสม ไม่สูงเกินไป เพื่อให้เพียงพอสำหรับความต้องการโดยไม่เป็นภาระต่อไต พร้อมกับคำนึงถึง วัตถุดิบเสริมและ ควบคุมโซเดียมในเกณฑ์ปลอดภัย จะช่วยให้แมวแข็งแรง มีสุขภาพดี และอยู่กับเราอย่างยาวนานครับ
นายสัตวแพทย์รพีพัฒน์ โพบุคดี





